ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้าของ บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ออกโดย บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด (ใช้คำเรียกแทนว่า “บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) เพื่อแจ้งบุคคลภายนอกที่บริษัทติดต่อด้วย รวมถึงลูกค้า ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน และผู้รับบริการอื่น ๆ ของบริษัท (ทั้งหมดรวมเรียกว่า “ คุณ” หรือ “ของคุณ”) ได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บรวบรวม
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง (ในฐานะลูกค้า ผู้ใช้บริการ หรือผู้รับบริการของบริษัท) หรือโดยทางอ้อมจากแหล่งอื่น ๆ และ/หรือผ่านบริษัทในเครือ บริษัทอื่น ๆ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลที่สาม (เช่น ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทน นายหน้าช่วง และบุคคลอ้างอิงอื่น ๆ)
บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยอาศัยข้อกำหนดทางกฎหมาย ได้แก่ (1) เพื่อปฏิบัติตามสัญญาสำหรับให้บริการหรือทำธุรกรรมกับคุณ (2) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบุคคลอื่น (4) หลักความสำคัญเพื่อป้องกันหรือระงับมิให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ผลประโยชน์สาธารณะ เพื่อดำเนินการอันเป็นสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือ กรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับดำเนินกิจกรรมบางอย่างในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทจะดำเนินการขอรับความยินยอมจากคุณสำหรับกิจกรรมดังกล่าวแยกต่างหาก
ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณได้ติดต่อดำเนินการกับบริษัท และบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการจากบริษัท โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังต่อไปนี้
- ข้อมูลทั่วไป
- ข้อมูลระบุตัวตนเช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล อักษรย่อจากชื่อจริง ชื่อเล่น นามแฝง อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก สถานภาพการสมรส สัญชาติ ประเทศที่เกิด ความเป็นพลเมืองและสถานภาพรายละเอียดการเกณฑ์ทหาร ลายเซ็น หมายเลขโทรศัพท์ส่วนบุคคล หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน Line ID อีเมล ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ ภาพวาดแผนที่หรือสถานที่ตั้งของที่อยู่ สถานะที่อยู่ปัจจุบัน (เช่น เป็นเจ้าของบ้าน ผู้อาศัยในนามเจ้าบ้าน บ้านพักสวัสดิการ บ้านเช่า และอัตราค่าเช่ารายเดือน ค่าผ่อนชำระบ้านต่อเดือน และระยะเวลาที่ได้เข้าอยู่อาศัย) ระดับการศึกษา ข้อมูลระบุตัวตนที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง บัตรข้าราชการ และทะเบียนบ้าน) อาชีพ สถานะการจ้างงาน ตำแหน่งงาน และอายุงาน
- รายละเอียดทางการเงินเช่น แหล่งรายได้หลัก เอกสารทางการเงินที่ออกโดยนายจ้าง แหล่งรายได้อื่น รายละเอียดบัญชีธนาคาร รายงานการเคลื่อนไหวในบัญชี (Bank Statement) สำเนาบัตรเครดิต เลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ ใบสมัครสินเชื่อ บันทึกการชำระเงินและความน่าเชื่อถือทางการเงิน (เช่น สถานะข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงิน และข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน)
- รายละเอียดทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน, ใบรับประกันสินค้า, ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆของทรัพย์สิน
- การตั้งค่าและความสนใจเช่น ความสนใจของคุณ การตั้งค่าต่าง ๆ (รวมถึงช่องทางการติดต่อที่มีขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ และ/หรือวิธีการถ่ายโอนความสนใจของคุณ) ประวัติการใช้เว็บไซต์ และเอชทีทีพีคุกกี้
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์/บริการเช่น ประเภทผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ ขายฝาก, สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อการซื้อขาย (C2C), สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อการซื้อขาย (Partner/Dealer), การขายฝากและสินเชื่อเช่าซื้อผ่านนายหน้า(Agent), ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุ ประกันมะเร็ง ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (CL) หมายเลขสัญญาของคุณ หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัยของคุณ รายละเอียดบริษัทประกันภัย วิธีชำระเบี้ยประกัน ระยะเวลากรมธรรม์ประกันภัย (ตั้งแต่วันเอาประกันและวันสิ้นสุดการเอาประกัน) รายละเอียดเบี้ยประกัน เหตุผลการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย จำนวนงวด จำนวนเงินที่จ่ายต่องวด จำนวนเงินการชำระงวดสุดท้าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากร วันที่จ่ายค่างวดงวดแรก วันที่จ่ายเงินแต่ละงวด ค่าบริการตู้เซฟ และ/หรือค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าธรรมเนียมการต่อสัญญา จุดประสงค์การขอสินเชื่อ รายละเอียดสินเชื่อ (เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ ราคาเงินสด เงินดาวน์ จำนวนงวด จำนวนเงินกู้ทั้งหมด และอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมแบบลดต้นลดดอก) มูลค่าหลักประกัน รายละเอียดหลักประกัน วิธีชำระหนี้ ยอดปิดปรับ/รีไฟแนนซ์ จำนวนรวมของการชำระหนี้ และวิธีการรับเงินสินเชื่อ (เช่น รับเป็นเงินสดโดยตรง หรือรับฝากเข้าบัญชีธนาคาร)
- ข้อมูลการสื่อสารเช่น ข้อมูลเสียงของคุณซึ่งบันทึกไว้ที่ศูนย์บริการข้อมูล บันทึกการสอบถามของคุณ และรายละเอียดหรือเนื้อหาการสื่อสารระหว่างคุณกับบริษัท
- ข้อมูลการตลาดเช่น การตั้งค่าทางการตลาดของคุณ ข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทคาดว่าคุณอาจสนใจ และการอ้างถึง/การอนุมานจากการโต้ตอบหรือปฏิสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท บริษัทในเครือ บริษัทอื่น ๆ หรือพันธมิตรของบริษัท
- ข้อมูลประวัติการเยี่ยมชมใช้งานอินเตอร์เน็ตเช่น ไฟล์คุกกี้ และพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประเภทสืบค้น ประวัติสืบค้น ภาษาที่ใช้สืบค้น เลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อบนเครือข่าย (IP Address) ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีใช้งานและการโต้ตอบกับบริการออนไลน์หรือการโฆษณาของบริษัท (รวมถึงเว็บเพจที่เยี่ยมชม เนื้อหาที่เยี่ยมชม ลิงก์ที่คลิก และคุณสมบัติที่ใช้) เวลาที่ใช้และความถี่ในการใช้บริการออนไลน์ของบริษัท หน้าเว็บที่คุณคลิกลิงก์เพื่อเข้าสู่บริการออนไลน์ของบริษัท (เช่น อ้างอิงจาก URL) และรายงานข้อขัดข้อง ซึ่งเป็นไปได้ที่จะผสานข้อมูลใด ๆ เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรืออาจใช้ข้อมูลอื่นเพื่อสร้างโปรไฟล์ของคุณ บริษัทจะถือว่าข้อมูลอื่น ๆ และข้อมูลที่ผสานกันแล้วนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
- ข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นไปตาม FATCAเช่น คุณมีสัญชาติหรือสถานที่เกิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ คุณถือสัญชาติอเมริกัน (Green Card) หรือไม่ คุณมีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายภาษีให้กรมสรรพากรของประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่
- ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่คุณได้ไห้ไว้กับบริษัท (เช่น สมาชิกในครอบครัวของคุณ บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกัน และบุคคลที่ต้องติดต่อเพื่อเรียกเก็บหนี้ พยาน ผู้รับมอบอำนาจ และ/หรือผู้รับผลประโยชน์) รวมถึงข้อมูลที่คุณให้กับบริษัทในโครงการเพื่อนแนะนำเพื่อน สำหรับการจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือการดำเนินการให้บริการของบริษัท โดยหากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นไว้กับบริษัท กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลนั้นด้วย โดย (ก) แจ้งให้บุคคลอื่นทราบเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ และ (ข) ต้องได้รับความยินยอมในกรณีที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อจำเป็น เพื่อให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
- ความสัมพันธ์ทางสังคมเช่น สถานภาพทางการเมือง ความสัมพันธ์กับกรรมการ ฝ่ายจัดการ และบุคคลผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ความสัมพันธ์กับนิติบุคคลอื่น (เช่น กรรมการ ฝ่ายจัดการ และผู้ถือหุ้น) และความสัมพันธ์อื่น
- มุมมองและความคิดเห็นข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองและความคิดเห็นของคุณ เช่น ความชื่นชอบเกี่ยวกับบริการของบริษัท หรือข้อมูลอื่นใดที่คุณเลือกส่งให้บริษัท (รวมถึงการส่งข้อมูลผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือการสำรวจความคิดเห็นออนไลน์) การแสดงความคิดเห็น การให้ข้อติชม การร้องเรียน การให้คำแนะนำ การตอบแบบสำรวจความคิดเห็น ข้อซักถาม และข้อมูลที่คุณสมัครใจให้ไว้ระหว่างที่ติดต่อสื่อสารด้านการตลาดหรือการสื่อสารเกี่ยวกับการบริการลูกค้า รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เปิดเผยบนโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ของคุณ และ
- รายละเอียดอื่นใดที่คุณให้ไว้กับบริษัทข้อมูลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์ใหม่หรือความสัมพันธ์ที่มีในปัจจุบันของคุณ การที่คุณสมัครใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือที่บริษัทให้การบริการแก่คุณ รวมทั้งกรณีอื่น ๆ
- ข้อมูลละเอียดอ่อน (Sensitive Data)
- ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเช่น ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) โดยบริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้จากความยินยอมที่ถูกต้องชัดเจนจากคุณ หรือเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมายซึ่งไม่ต้องขอความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลของผู้เยาว์ ผู้ไร้ความสามารถและผู้เสมือนไร้ความสามารถ และต้องมีการขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว บริษัทจะมีการขอความยินยอมจากจากผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาล เท่านั้นตามลำดับ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมายอื่นๆ ได้ กรณีถ้าบริษัททราบภายหลังว่าได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจกระทำแทนผู้เยาว์ หรือกรณีของผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถซึ่งไม่ได้รับความยินยอมจาก ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล ตามลำดับ โดยที่บริษัทไม่รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าว บริษัทจะลบข้อมูลนั้นทันที หรือจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลดังกล่าวก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมายส่วนอื่นนอกจากความยินยอมได้เท่านั้น
- ช่องทางการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่
- (1) ช่องทางการบริการบริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านช่องทางการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ให้บริการของบริษัท การให้บริการออฟไลน์หรือออนไลน์ หรือให้บริการทางไกล (เช่น ทางโทรศัพท์ ทางแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งช่องทางการส่งเสริมการขายและการตลาดอื่น ๆ)
- (2) ช่องทางอื่นนอกจากการบริการนอกจากนี้ บริษัทยังอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านช่องทางอื่นนอกจากการบริการ เช่น เมื่อคุณติดต่อบริษัท ก่อนการทำธุรกรรม สมัครใช้การบริการ ขอเอกสารเสนองาน หรือข้อเสนอต่าง ๆ จากบริษัท หรือเข้าร่วมการทำธุรกรรมหรือการทำสัญญา (ไม่ว่าจะติดต่อและให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางใด ๆ เช่น ผ่านสาขาบริษัทแพลตฟอร์มทางอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท บัญชี LINE ที่เป็นทางการของบริษัท) หรือข้อมูลที่ได้รับจากห้องเก็บเอกสาร (Data Room) ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
- (3) จากแหล่งอื่นบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลของทางการ (เช่น หน่วยงานราชการที่มีฐานข้อมูลของบุคคลที่น่าเชื่อถือ) นายจ้างของคุณ องค์กรที่บริษัทให้บริการ (ซึ่งรวมถึงเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ขององค์กรเหล่านั้น) ผู้ให้บริการที่บริษัทว่าจ้างให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัท บริษัทในเครือของบริษัท คู่ค้าของบริษัท (เช่น บริษัทประกันภัยเพื่อจุดประสงค์เกี่ยวกับการประกันภัย แพลตฟอร์มของพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท คู่ค้าของบริษัทที่คุณทำงานอยู่หรือเป็นผู้กระทำการแทน) และจากบุคคลภายนอกอื่น ๆ
- จุดประสงค์การเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณติดต่อดำเนินการใด ๆ กับบริษัท ดังนี้
- เพื่อให้บริการคุณเช่น เพื่อให้คุณสมัครและรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เพื่อดำเนินการตามกระบวนการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อสนับสนุนและดำเนินกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อให้บริการลูกค้า (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการตอบข้อสอบถาม) เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายสินเชื่อจัดทำใบเสนอราคา และดำเนินการพิจารณาใบสมัครของคุณเพื่อให้บุคคลภายนอกดำเนินการจัดหาการประกันภัยที่เหมาะกับคุณ เพื่อส่งมอบและรับคืนเล่มกรมธรรม์ประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการสมัครรับผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลที่สาม เช่น ในกระบวนการอนุมัติประกันภัย และการออกเล่มกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อดำเนินการเคลมประกัน และยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อบริหารจัดการบัญชีของคุณ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการสมัคร ข้อตกลงสัญญา หรือการติดต่อใด ๆ กับคุณ เพื่อดูแลและปรับปรุงการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ให้แก่คุณ บางกรณีเพื่อยุติสัญญาใด ๆ ที่บริษัทมีกับคุณ เพื่อทำหรือช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับเครดิตของคุณ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อและการประกันภัย และเพื่อตรวจสอบรายละเอียดที่คุณให้ไว้กับบริษัท และผู้ให้บริการของบริษัท
- เพื่อยืนยันตัวตนของคุณเช่น เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการตามกระบวนการที่ต้องรู้จักลูกค้าและระบุตัวตนหรือพิสูจน์ตัวตนได้อย่างถูกต้อง (KYC) หรือในกระบวนการตรวจสอบเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (CDD) เพื่อตรวจสอบข้อมูลของคุณจากบัญชีดำและการฟอกเงิน เพื่อให้เข้าถึงบัญชีของคุณจากการลงทะเบียน การยืนยัน การระบุตัวตน และการรับรองความถูกต้องของคุณ หรือตัวตนของคุณและการลงนาม เพื่อยืนยันตำแหน่ง และเพื่อเก็บคำถามรักษาความปลอดภัยที่ใช้ยืนยันตัวตนในภายหลังสำหรับช่องทางออนไลน์หรือมือถือ
- เพื่อใช้ข้อมูลทางธุรกรรมและ/หรือการชำระเงินเช่น การประมวลผลการชำระเงินหรือธุรกรรม การเรียกเก็บเงิน การประมวลผล การหักบัญชี การคืนเงิน หรือกิจกรรมกระทบยอดบัญชีต่าง ๆ (กิจกรรมการประนีประนอม) รวมถึงกิจกรรมทางการเงินทั้งหมด ทั้งการทำธุรกรรมหรือบันทึกการชำระเงินที่เกี่ยวข้อง การออกใบเสร็จเรียกเก็บเงิน ใบกำกับภาษี ใบเสร็จการชำระเงิน และการส่งมอบเอกสารดังกล่าว
- เพื่อสื่อสารและจัดการความสัมพันธ์ของบริษัทกับคุณเช่น เพื่อแจ้งผลการสมัครใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ การสื่อสารทางข้อความ (SMS) เพื่อส่งจดหมายหรือเอกสาร (เช่น จดหมายต้อนรับ รหัสบัตรและบัตรเครดิต กรมธรรม์ประกันภัย จดหมายแจ้งต่ออายุประกันภัย ใบแจ้งหนี้หรือแจ้งเตือนวันครบกำหนดอื่น ๆ หรือจดหมายเรียกเก็บหนี้) และการติดตามการจัดส่งไปรษณีย์ การแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับจำนวนเงินค้ำประกันที่เหลืออยู่เพื่อดำเนินการขอรับคืน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและจัดการกับปัญหาทางเทคนิค เพื่อใช้และปรับปรุงข้อมูลของคุณให้เป็นปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการของบริษัท เพื่อดำเนินการตามข้อร้องเรียนของคุณ เพื่อตอบสนองและปฏิบัติตามคำขอของคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทเสนอหรือให้ เพื่อจัดการบัญชีและความสัมพันธ์ของบริษัท
- เพื่อติดตามทวงถามหนี้เพื่อดำเนินการติดตามทวงถามหนี้โดยบริษัท และผู้ให้บริการการทวงถามหนี้ เพื่อเรียกคืนเงิน เพื่อติดตามทรัพย์สินกลับคืน หรือ เพื่อรับทรัพย์สินจากคุณ และจัดการกับบัญชีของคุณตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ (ซึ่งอาจรวมถึงการยื่นฟ้องลูกค้าที่ค้างชำระ)
- เพื่อโฆษณาและการตลาดเช่น ส่งข้อเสนอสำหรับโปรโมชั่น ข้อเสนอพิเศษ และข้อเสนออื่น ๆ/โปรโมชั่น (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการให้ส่วนลด) เพื่อจัดกิจกรรมเสี่ยงโชคลุ้นของรางวัลหรือกิจกรรมอื่นในด้านความร่วมมือ/การเป็นพันธมิตร และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อทำการตลาดทางตรงและทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อแสดงโฆษณาออนไลน์ เพื่อให้ข้อเสนอหรือโปรโมชั่นแบบกำหนดเป้าหมาย เพื่อดำเนินการและจัดการลงทะเบียนบัญชีและกิจกรรมของคุณ เพื่อดำเนินการวางกลยุทธ์และการตลาดดิจิทัล เพื่อดำเนินการด้านความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดีย เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับจุดประสงค์ทางการตลาด เพื่อวิจัยการตลาด และประเมินหรือปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาดของบริษัท เพื่อดำเนินการด้านสื่อสังคมออนไลน์ในการแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับการตลาดของบริษัท การสื่อสาร ประกาศ ข่าว และข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ รวมถึงบริการโฆษณาและของรางวัลจากบริษัท หรือบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท การสื่อสารการตลาดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านเอเจนซี่
- คำแนะนำและการปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคลบริษัทได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าของคุณ เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภทใดที่คุณมีแนวโน้มจะสนใจ เพื่อนำไปปรับการโฆษณา และให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ตรงกับความสนใจของคุณมากที่สุด โดยปรับแต่งประสบการณ์ของคุณ นอกจากนี้ บริษัทยังใช้บริการสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อแสดงโฆษณาและข้อเสนอพิเศษผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งบางกรณีจะกำหนดเป้าหมายไปที่คุณตามความสนใจและการเรียกดูเว็บออนไลน์ (รวมถึงเว็บไซต์บริษัท)
- การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทเช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาดและข้อเสนอในการขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับปรับปรุงระบบ (เช่น พัฒนาแบบจำลองการจำแนกกลุ่มลูกค้าเพื่อให้บริการที่ดีขึ้น) วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพื่อตรวจสอบใบเสร็จเรียกเก็บเงินและจดหมายต้อนรับแบบสุ่มสำหรับปรับปรุงความแม่นยำ เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เพื่อสำรวจความพึงพอใจลูกค้าสำหรับปรับปรุงการให้บริการ เพื่อตรวจสอบว่าส่วนใดในเว็บไซต์บริษัทที่คุณเข้าชม หรือส่วนใดของเว็บไซต์ที่คุณพบว่ามีประโยชน์มากที่สุด การประเมินส่วนที่เชื่อมประสานกับผู้ใช้และประสบการณ์ การทดลองใช้คุณสมบัติหรือฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปรับปรุงจุดบกพร่องในโปรแกรม (Debug) และแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อวิเคราะห์การใช้บริการออนไลน์ของบริษัท เพื่อปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มของคุณ เพื่อจดจำคุณในเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คุณใช้ เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ และเพื่อพัฒนาข้อมูลในเชิงคุณภาพ
- การวิเคราะห์ความเสี่ยงเช่น การประเมินความเสี่ยงตามข้อมูลของคุณและข้อมูลที่ได้รับ เพื่อประเมินคุณสมบัติในการเข้ารับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เพื่อประเมินใบสมัครของคุณหรือคุณสมบัติในการเข้ารับผลิตภัณฑ์หรือบริการ (เช่น เพื่อประเมินคะแนนเครดิตสำหรับการสมัครสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อให้เข้าใจถึงจุดประสงค์การขอสินเชื่อและธุรกรรม และแหล่งที่มาของการชำระหนี้ เช่นเดียวกับเพื่อประเมินความสามารถของลูกค้าในการปฏิบัติตามภาระผูกพันได้อย่างทันท่วงที) เพื่อประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับป้องกันความเสี่ยง (เช่น พัฒนาแบบจำลองเพื่อทำนายความเป็นไปได้ของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือคาดการณ์โอกาสของการเกิดอุบัติเหตุ) เพื่อควบคุมความเสี่ยงของบริษัท การตรวจสอบและการเก็บบันทึกการตรวจสอบ การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิต
- การดำเนินงานตามจุดประสงค์ทางธุรกิจเช่น เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อมูลของคุณเพิ่มเติม เพื่อรักษาข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อเก็บบันทึกทางธุรกิจและอื่น ๆ เพื่อปฏิบัติงาน จัดการ และรักษาการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่อดูแลการจัดการธุรกิจภายในสำหรับข้อกำหนดการปฏิบัติงานภายใน นโยบาย และขั้นตอนของบริษัท
- การปกป้องประโยชน์ของบริษัทเช่น เพื่อป้องกันความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัท การใช้สิทธิและการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทเมื่อจำเป็น เช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และปฏิบัติตามข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริต และเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการทุจริต และการระบุธุรกรรมที่มีการทุจริต การเรียกร้องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินและสินทรัพย์ของบริษัท เพื่อดำเนินการตรวจสอบรายชื่อการติดโทษ (Sanction List) การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายในและบันทึก การจัดการสินทรัพย์ ระบบและการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามอันตรายซึ่งอาจเกิดขึ้นกับชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล เพื่อตรวจสอบรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขบริษัท การติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานความผิดทางอาญา และเพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับบริษัทสำหรับใช้อ้างอิงและเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องหรือการดำเนินคดี
- เพื่อดำเนินการตามจุดประสงค์ทางกฎหมายเช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย การดำเนินคดี หรือคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอาจรวมถึงคำสั่งจากหน่วยงานของรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือการให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อบริษัทเห็นสมควรว่าบริษัท จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้ความร่วมมือตามกฎหมาย การดำเนินการ คำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลักจรรยาบรรณ และนโยบายภายในของบริษัท การใช้สิทธิและการโต้ตอบข้อเรียกร้องทางกฎหมาย (ซึ่งรวมถึงการติดตามทวงถามหนี้ การนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดเพื่อนำมาชำระหนี้ การเรียกคืนจากบัญชีค้างชำระ) เพื่อเก็บรักษาบันทึกและแก้ไขข้อร้องเรียนและข้อพิพาท เพื่อการใช้ข้อมูลการดำเนินกิจกรรม เพื่อการใช้ข้อมูลผลกิจกรรมการรายงานเครดิต และการกำกับดูแลและการรายงานภาษี การเปิดเผยเพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบ
- เพื่อการทำงานของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มบริษัทเช่น เพื่อดูแลการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท การจัดการระบบสื่อสาร การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารงาน การดำเนินงาน การติดตามงาน การตรวจสอบ และจัดการเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับคุณในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัท ปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาในเว็บไซต์และแพลตฟอร์มบริษัท เพื่อให้คุณเข้าถึงระบบที่มีอยู่และให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค
- การทำธุรกรรมขององค์กรกรณีที่มีการขาย การโอน การควบรวมกิจการ การปรับโครงสร้าง หรือเหตุการณ์ที่คล้ายกัน ซึ่งบริษัทอาจโอนข้อมูลของคุณไปยังบุคคลที่สามอย่างน้อยหนึ่งรายอันเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น
- เพื่อให้ความสำคัญกับชีวิตเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายอันอาจเกิดกับชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล
- เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเช่น การตรวจสอบบันทึกกิจกรรมเครือข่าย เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความปลอดภัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัย และเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจเกิดกับข้อมูล การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวโยงกับการบำรุงรักษาข้อมูล
- จุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
- เพื่อจุดประสงค์ในการยื่นสำเนาบัตรประชาชนของคุณในการดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง:ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา (ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน)
หมายเหตุ: บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บใช้และไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าบัตรประชนของคุณในระบบข้อมูลของบริษัท - เพื่อจุดประสงค์ในการดำเนินการตรวจสอบประวัติและกระบวนการรับประกันภัย (Underwriting Process) เพื่อนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท:ประวัติอาชญากรรม
- เพื่อจุดประสงค์ในการขอรับใบเสนอราคากรมธรรม์ประกันภัย และเพื่อจุดประสงค์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือกระบวนการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การดำเนินการเรียกสินไหมทดแทน และการชำระค่าสินไหมในนามผู้เอาประกันภัยอันเกินขอบเขตของกฎหมายที่อนุญาต:ข้อมูลสุขภาพ
- เพื่อจุดประสงค์ในการขอรับใบเสนอราคากรมธรรม์ประกันภัย และเพื่อจุดประสงค์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือกระบวนการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การดำเนินการเรียกค่าสินไหมทดแทน และการชำระค่าสินไหมในนามผู้เอาประกันภัยอันเกินขอบเขตของกฎหมายที่อนุญาต:ข้อมูลความพิการ
- เพื่อจุดประสงค์ในการรับรองความถูกต้องและการยืนยันตัวตนและการดำเนินการของกระบวนการตรวจสอบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ตามกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Know Your Customer (E-KYC)) และเพื่อจุดประสงค์ในการสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์:ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า)
- เพื่อจุดประสงค์ในการยื่นสำเนาบัตรประชาชนของคุณในการดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง:ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา (ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน)
หมายเหตุ: กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่กฎหมายกำหนด หรือกรณีที่บริษัทต้องเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติตามสัญญากับคุณ หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขการจัดกิจกรรมกับคุณ หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อคุณตามจุดประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น และคุณไม่ได้ให้ข้อมูลนั้นเมื่อร้องขอ บริษัทอาจไม่บรรลุจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ข้างต้นได้
- บุคคลที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลที่สามดังต่อไปนี้ตามจุดประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างต้น
- พันธมิตรทางธุรกิจบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อบริษัทอื่นที่ได้ร่วมนำเสนอหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ลูกค้าหรือผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต เช่น บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้ให้บริการวิเคราะห์ ตัวแทนทำงานวิจัย ตัวแทนให้บริการจัดผลสำรวจ ตัวแทนให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการสื่อสาร ตัวแทนการตลาดและบริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- ผู้ให้บริการบริษัทอาจว่าจ้างบริษัทอื่นเป็นผู้ให้บริการในนามบริษัท และเพื่อสนับสนุนบริษัทในการดำเนินธุรกิจ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อบริษัทผู้ให้บริการเหล่านี้ หรือบริษัทผู้ให้บริการดังกล่าวอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในนามบริษัท เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ผู้ให้บริการที่เก็บข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงสร้างพื้นฐาน ซอฟต์แวร์และผู้พัฒนาเว็บไซต์ ผู้ให้บริการการบริหารความเสี่ยง ผู้ให้บริการให้ข้อมูล ผู้ให้บริการโปรแกรมสนทนาอัตโนมัติ ตอบคำถามผ่านแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ แอปพลิเคชันต่าง ๆ ผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ ผู้ให้บริการจัดส่งข้อความ (SMS) ผู้ให้บริการเครือข่ายแพลตฟอร์มที่ใช้สนับสนุน ผู้ให้บริการด้านการจัดการทั่วไป ผู้ให้บริการด้านการติดตามทวงถามหนี้และติดตามหนี้สิน ที่ปรึกษาด้านการตรวจสอบ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์และการขนส่ง ผู้สื่อข่าวและประชาสัมพันธ์
- บุคคลที่สามบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามของคุณ หรือเกี่ยวข้องกับการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณได้รับจากบริษัท รวมถึงนายหน้า ตัวแทน และผู้แทนจำหน่ายที่ได้ส่งใบคำขอสินเชื่อของคุณแก่บริษัท ตัวกลางผู้ให้บริการจัดการการชำระเงินของคุณ และผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรของบริษัท ผู้ค้ำประกัน ผู้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ผู้จัดหาเงินทุนในกรณีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ และเพื่อประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัท ตัวแทนการติดตามทวงถามหนี้และการยึดทรัพย์สิน
- บุคคลที่สามที่คุณอนุญาตหรือขอให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณด้วยความยินยอมหรือตามคำขอของคุณ
- เครดิตบูโรบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมถึงบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อรายงานหรือตรวจสอบเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณ และเพื่อจุดประสงค์ตามกฎหมายอื่น ๆ
- ผู้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ซื้อ (รวมถึงตัวแทนและที่ปรึกษา)กรณีที่บริษัทตั้งใจจะขายธุรกิจส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทรัพย์สินของบริษัทหรือถ้าบุคคลที่สามได้มาซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท กรณีนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ที่บริษัทขาย โดยบริษัทจะแจ้งผู้ซื้อว่าต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เพื่อจุดประสงค์ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น
- หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่นที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามความจำเป็นบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อหน่วยงานของรัฐหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ ตามกฎหมายและจุดประสงค์ที่จำเป็น เช่น
- เพื่อปฏิบัติตามคำขอจากหน่วยงานกำกับดูแล หรือเพื่อปฏิบัติตามหมายศาล การตรวจสอบของรัฐบาลหรือการสอบสวน การขอบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ คำสั่งกฎหมาย หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ
- เพื่อจุดประสงค์ทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น การบังคับใช้ข้อกำหนดและตามเงื่อนไขบริษัท การใช้หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือกรณีที่บริษัทพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นหรือเหมาะสม เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิในการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตของบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น ๆ ความปลอดภัยในทรัพย์สินส่วนบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกันหรือจัดการกับการฉ้อโกง
- การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะได้รับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย และอาจโอนไปยังประเทศอื่นนอกประเทศไทย บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไปยังบุคคลที่สามเพื่อจุดประสงค์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น เพื่อจุดประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลคะแนนเครดิตและการวิเคราะห์ความเสี่ยง ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางรายอาจอยู่ในประเทศอื่นที่ยังไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพียงพอตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด กรณีดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมตามภาระหน้าที่กฎหมายของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้รับการคุ้มครองอย่างเพียงพอไม่ว่าประเทศใดก็ตาม
- ระยะเวลาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้เท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ตามจุดประสงค์ของการเก็บรวบรวม และเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทตามรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และตามกฎหมายที่บังคับใช้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันที่คุณสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือผ่านการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานเท่าที่จำเป็น และ/หรือเท่าที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
- หลักกฎหมายที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลโดยอาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานความยินยอม เพื่อประมวลผลข้อมูลของท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญา หรือการเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (3) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (4) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (5) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (6) ฐานประโยชน์สาธารณะสำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลของท่านแยกตามกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
- ฐานความยินยอม (Consent) : บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท โดยบริษัทได้แจ้งรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลของท่านแล้วตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับบริการแต่ละรายการ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาด การโฆษณา ทำการตลาดโดยตรง (Direct Marketing) การแจ้งข้อมูลข่าวสาร การนำเสนอ สิทธิประโยชน์ และรายการส่งเสริมการขายตลอดจนให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ โปรโมชั่นพิเศษ บริการเสริม และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ การแจ้งเตือนต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะจัดทำขึ้นในอนาคต
- ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทอาจนำส่งข้อมูลให้แก่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล และ/หรือหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในการเรียกข้อมูลที่บริษัทครอบครองอยู่ได้ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น
- ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) : บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งได้แจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลของท่านแล้วตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) โดยบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อการให้บริการ เพื่อประโยชน์แก่ท่านเอง และการวิเคราะห์ข้อมูลการบริการในภาพรวม การจัดทำรายงานเพื่อประชุมในหน่วยงาน รวมถึงนำเสนอคณะผู้บริหารการวิจัย หรือการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัท การปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการ การจัดทำข่าวสารประชาสัมพันธ์ การใช้คุกกี้ที่จำเป็นต่อการเข้าชมเว็บไซต์ การบันทึกเสียงทาง Call Center ภาพถ่าย/ภาพเคลื่อนไหว การบันทึกภาพ CCTV การแลกบัตรก่อนเข้าอาคาร การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ การชิงโชค การลงทะเบียน เป็นต้น
- ฐานสัญญา (Contract) : บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการให้บริการ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่และเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา หรือที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้การทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท หรือระหว่างท่านกับคู่ค้าของบริษัทบรรลุวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามสัญญา และเพื่อการให้บริการตามคำขอ ตอบข้อซักถาม ยืนยันตัวตนในการใช้บริการโดยหากท่านไม่ตกลงให้ข้อมูลส่วนบุคคล จะส่งผลให้การทำสัญญา หรือนิติกรรมต่าง ๆ ที่ทำขึ้นระหว่างท่านกับบริษัทไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายสิทธิของคุณ
- ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องคุณ อาจมีสิทธิตามที่ระบุดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเข้าถึงคุณมีสิทธิตรวจสอบข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ การเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอทราบที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณไม่ได้ให้ไว้กับบริษัทโดยตรง
- สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ถูกต้องหากคุณเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ คุณอาจขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวได้
- สิทธิในการลบหรือทำลายคุณมีสิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลของคุณที่บริษัทเก็บรวบรวม ให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ แต่ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อ สิทธิของผู้อื่น ความมั่นคงปลอดภัย สัญญาที่มีอยู่ต่อบริษัท รวมถึงเป็นเป็นการขัดต่อกฎหมาย
- สิทธิในการระงับใช้คุณอาจมีสิทธิขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เห็นว่าข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเหมาะสม หรือขอระงับการลบ/ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
- สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลถ้ากฎหมายได้ให้สิทธิไว้ คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้ให้ไว้กับบริษัท และ (ข) กรณีบริษัทได้รับความยินยอมจากคุณหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับคุณ
- สิทธิในการคัดค้านคุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่นการคัดค้านการตลาดแบบตรง
- สิทธิในการขอถอนความยินยอมหากคุณได้ยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิขอยกเลิกความยินยอมเมื่อไหร่ก็ได้
- สิทธิในการร้องเรียนคุณมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ทั้งที่บริษัทเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว หรือกรณีบุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินการในนามของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทขอโอกาสจัดการแก้ไขสิ่งที่คุณกังวล ก่อนที่คุณจะติดต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ บริษัทขอให้คุณติดต่อบริษัทเป็นอันดับแรก เพื่อพูดคุยแก้ไขในสิ่งที่คุณกังวล
ทั้งนี้การขอใช้สิทธิของคุณตามที่กำหนดอาจมีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมายและบางกรณีบริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของคุณด้วยเหตุผลที่เหมาะสมโดยคุณสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ตามที่อยู่ในหัวข้อ “ติดต่อสอบถาม”
- การใช้คุกกี้
9.1 คุกกี้ (Cookies) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ส่งไปเก็บไว้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เว็บไซต์จดจำข้อมูลเข้าชมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาษาที่เลือกใช้เป็นอันดับแรก ผู้ใช้ของระบบ หรือการตั้งค่าอื่น ๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชมเว็บไซต์ในครั้งถัดไป เว็บไซต์จะจดจำได้ว่าเป็นผู้ใช้ที่เคยเข้าใช้บริการแล้ว และตั้งค่าตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะลบคุกกี้ หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้นั้นทำงานอีกต่อไป
9.2 บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลการล็อกอิน (Login) ล็อกเอาท์ (Logout) หรือข้อมูลอื่นในคอมพิวเตอร์ของท่าน เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ของบริษัท การตลาดและเนื้อหาในเว็บไซต์ของบริษัท และเพื่อให้บริการต่างๆของบริษัท เป็นไปตามความพึงพอใจและความสนใจของท่าน คุกกี้ทำให้บริษัท สามารถวิเคราะห์กิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์ของบริษัทได้ อาทิ วันที่ เวลา และหน้าเว็บไซต์ที่เข้าชม ตลอดจนเว็บไซต์ต้นทางที่ท่าน หรือผู้เข้าชมรายใหม่เชื่อมโยงมาที่เว็บไซต์ ป้องกันและตรวจจับการดำเนินการที่ต้องห้ามหรือไม่ได้รับอนุญาต สำหรับบริการบางประเภท บริษัทเสนอทางเลือกให้ท่านในการเก็บข้อมูลรหัสผู้ใช้หรือรหัสผ่านไว้ในคุกกี้ได้โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลดังกล่าวอีกเมื่อกลับมายังเว็บไซต์ของบริษัท ในภายหลัง บริษัทอาจใช้แฟลชคุกกี้ (Flash Cookie) เพื่อแสดงเนื้อหาตามสิ่งที่ท่านดูบนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อกำหนดลักษณะเฉพาะตัวในการเข้าใช้งานเมื่อท่านเลือกบริการใด ๆ ของบริษัท ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์มออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม บริษัทอาจพยายามระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูลอื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท
9.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัว โดยเลือกที่จะยอมรับหรือไม่รับคุกกี้ก็ได้ ทั้งนี้ กรณีท่านเลือกที่จะไม่ยอมรับหรือลบคุกกี้เว็บไซต์อาจจะไม่สามารถให้บริการหรือไม่สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้องได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลให้การเข้าถึงและการใช้งานบางฟังก์ชันช้าลงหรือมีความสะดวกลดลง
- การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตซึ่งบริษัทกำหนดสิทธิในการเข้าถึง หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล ดังนี้
10.1 บริษัทจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางเทคนิค ทางกายภาพ และทางธุรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงและเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสอดคล้องกับ การดำเนินธุรกิจของบริษัท และมาตรฐาน ที่รับรองโดยทั่วไป บริษัทกำหนดให้ลูกจ้างของบริษัท เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของ ข้อมูล นอกจากนี้ บริษัทยังมีมาตราการตรวจสอบให้แน่ใจว่า คู่ค้าของบริษัท มีการใช้มาตรการใน การ ประมวลผล โอนย้าย จัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเพียงพอในการให้บริการในนามของบริษัท อีกทั้งบริษัทจะมีการสอบทานและปรับปรุงมาตรการดังกล่าวตามความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานต่าง ๆ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
10.2 บริษัทจะกำหนดนโยบาย ระเบียบ แนวปฏิบัติ และขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อการจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้
1) กำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แลเพื่อจัดการข้อมูลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดอย่างปลอดภัย
2) ไม่จำหน่ายหรือขายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ว่ากรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
3) จำกัดสิทธิลูกจ้างของบริษัท ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
4) ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจัดให้มีการเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัส ตามความจำเป็น
5) ตรวจสอบสถานะ คู่ค้าของบริษัท กำหนดให้คู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัท ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกำหนดข้อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้มาตรการในการประมวลผล โอนย้าย จัดการ และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเพียงพอ
6) ติดตามตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
7) จัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแก่ลูกจ้าง พนักงาน คณะทำงานของบริษัท
8) ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของบริษัท อย่างสม่ำเสมอ
9) จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
10) จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลทางเทคนิค ทางกายภาพ และทางธุรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ได้รับอนุญาตและไม่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทและมาตรฐานที่รับรองโดยทั่วไปรวมถึงทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวตามการเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติหรือนโยบายการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัทจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย ฯลฯ การแก้ไขหรือการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทประกาศบนเว็บไซต์ www.brandnamemoney.com บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบ หรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง หากนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้รับการปรับปรุงที่สำคัญ หรือหากบริษัทจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย
- ลิงก์เว็บไซต์บุคคลที่สามอื่น ๆ
สำหรับผู้ใช้บริการเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน และผู้รับบริการอื่น ๆ ของบริษัทอาจพบลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยบริษัทมุ่งมั่นให้มีการเชื่อมโยงเฉพาะกับเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานและมีระบบป้องกันที่ดีซึ่งเคารพความเป็นส่วนตัวของคุณ กรณีนี้บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือแนวปฏิบัติเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น เว้นแต่บริษัทจะระบุไว้ชัดเจน ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่คุณให้ไว้กับเว็บไซต์ของบุคคลที่สามจะรวบรวมโดยบุคคลที่สามนั้นซึ่งไม่ใช่บริษัท และจะอยู่ภายใต้ประกาศ/นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้นด้วย (ถ้ามี) นอกจากนโยบายบริษัทฉบับนี้ กรณีนี้บริษัทอาจไม่สามารถควบคุมและรับผิดชอบหากมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ซึ่งเป็นข้อมูลที่คุณได้ให้ไว้กับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
- ติดต่อสอบถาม
13.1 ที่อยู่ : บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 177/16 ตรอกโชฎึก แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
โทรศัพท์ : 085-9101010
Website : www.brandnamemoney.com
บริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามทุกข้อกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยคุณสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล ในการร้องเรียนเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
13.2 รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของบริษัท : ส่วนคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 177/16 ตรอกโชฎึก แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
Call Center: 085-9101010
อีเมล : Support@Brandnamemoney.com
13.3 รายละเอียดหน่วยงานกํากับดูแล: ส่วนงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (controller)
ในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกํากับดูแล ตามรายละเอียดดังนี้
ชื่อ : ส่วนงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Controller)
สถานที่ติดต่อ : บริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 177/16 ตรอกโชฎึก แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
อีเมล: Support@Brandnamemoney.com
Call Center: 085-9101010